ประโยชน์ของนมผึ้ง
นมผึ้ง หรือ รอยัลเยลลี่ (Royal Jelly) เป็นสารชนิดหนึ่งที่ผลิตจากต่อมพิเศษข้างศีรษะของผึ้งงาน ที่มีอายุ 5-15 วัน ที่ทำหน้าที่เป็นผึ้งพี่เลี้ยง มีลักษณะเป็นครีมสีขาวคล้ายนมข้นหวานมีกลิ่นออกเปรี้ยว และรสค่อนข้างเผ็ดนิด ๆ นมผึ้งคืออาหารสำหรับตัวอ่อนของผึ้งและราชินี ตัวอ่อนของผึ้งงานจะได้รับนมผึ้งเพียง 3 วันแรกที่ออกจากไข่ ขณะที่ตัวอ่อนที่ได้รับคัดเลือกเป็นราชินีจะได้รับนมผึ้งนี้ตลอดชีวิต ซึ่งช่วยบำรุงให้ราชินีผึ้งมีอายุยืนกว่า (ราชินีผึ้งมีอายุประมาณ 4-5 ปี ผึ้งงานมีอายุประมาณ 45 วัน) มีขนาดและน้ำหนักตัวมากกว่าผึ้งชนิดอื่น รวมทั้งทำให้ราชินีผึ้งสามารถออกไข่ได้วันละประมาณ 2,000-3,000 ฟอง และจะวางไข่ทุกวันตลอดอายุขัย
องค์ประกอบของนมผึ้ง
จากการวิเคราะห์ของนักวิทยาศาสตร์ที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่านมผึ้งมีส่วน
ประกอบ ดังต่อไปนี้
น้ำ ประมาณร้อยละ 67-70
คาร์โบไฮเดรต ร้อยละ 10-12
โปรตีน ประมาณร้อยละ 14-15
ไขมัน ประมาณร้อยละ 3-5
ส่วนประกอบที่เหลือประมาณร้อยละ 1-2 ประกอบด้วยวิตามิน เกลือแร่ต่าง ๆ รวมถึงฮอร์โมน สารฆ่าเชื้อธรรมชาติบางชนิด และสารประกอบชีวเคมี อะเซตทิลคลอไรด์กับไอโนซิทอล คาร์โบไฮเดรตในนมผึ้งเป็นน้ำตาลธรรมชาติ เช่นเดียวกับกลูโคส ฟรุกโตส และซูโครส โปรตีนในนมผึ้งประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายซึ่งมีอยู่ในนมผึ้งอย่างสมดุลย์ สำหรับไขมันในนมผึ้ง มีเพียงเล็กน้อย ซึ่งปัจจุบันมีคำแนะนำว่าอาหารเสริมสุขภาพที่ดี ต้องมีไขมันเจือปนในปริมาณต่ำ
นมผึ้งอุดมด้วยวิตามินหลายชนิด ที่สำคัญคือวิตามินบี ซึ่งได้แก่ วิตามินบี 1 (ไธอามีน) วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) เนียซิน กรดแพนโททินิก และไบโอติน และยังมีวิตามินบี 6 (ไพริดอกซิน) ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อกระบวนการทำงานของโปรตีน และเชื่อกันว่าเป็นวิตามินต่อต้านความเครียด รวมถึงกรดฟอลิกและวิตามินบี 12 วิตามินทั้งสองชนิดสามารถป้องกันโรคโลหิตจางได้
เกลือแร่ที่มีในนมผึ้ง ได้แก่ แคลเซียม ทองแดง เหล็ก ฟอสฟอรัส โปตัสเซียมซิลิคอนและกำมะถัน นอกจากนี้ยังมีอะเซตทิลคลอไรด์ (1 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักนมผึ้ง 1 กรัม) ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นต่อระบบการทำงานของประสาท ในมนุษย์ ส่วนประกอบอีกตัวคือสารประกอบชีวเคมีไอโนซิทอล ซึ่งช่วยขจัดไขมันตกค้างในตับ ลดคลอเรสเตอรอลในเส้นเลือด และยังเป็นสารต่อต้านความเครียดอ่อน ช่วยบำรุงรักษาเส้นผม
ผลทางชีวภาพของนมผึ้ง
ผลการกระตุ้นทางชีวภาพ เพิ่มอัตราการดูดซับอาหารและออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง และเพิ่มอัตราขับถ่ายของเสียและคาร์บอนไดออกไซด์
รับประทานก่อนอาหาร 30 นาที จะเรียกน้ำย่อยรู้สึกอยากอาหาร
รับประทานหลังอาหาร จะกระตุ้นการใช้อาหารและเผาผลาญให้พลังงานที่สมบูรณ์
รับประทานก่อนนอน มีผลช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและกระตุ้นให้ร่างกายแข็งแรงกระฉับกระเฉง เตรียมพร้อมสู้งานหนักในวันรุ่งขึ้น
ผลต่อฮอร์โมน กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพศหญิงและชายให้ได้สมดุลย์ และเพิ่มสมรรถภาพในการสร้างสเปริม์ และช่วยการสุกของไข่ในสตรีมีประจำเดือนมาไว และหมดประจำเดือนช้า
ผลทางการสร้างเม็ดเลือดและความแข็งแรงของกระดูก ในเด็กเล็กและคนสูงอายุจะเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก และช่วยการสร้างเม็ดเลือดแดงให้สมบูรณ์แข็งแรงขึ้น ช่วยดูดซับอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดีขึ้น สมบูรณ์แข็งแรงขึ้น ช่วยดูดซับอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
ผลต่อระบบหมุนเวียนโลหิต ช่วยให้หัวใจเต้นดีขึ้น ทำให้สูบฉีดโลหิตหมุนเวียน ผ่านสมอง ปอด ตับ ไต และแขนขาได้ดีขึ้น คนสูงอายุหรือผู้ป่วยจะรู้สึกอบอุ่น และสดชื่น
ผลต่อเม็ดเลือดขาวและระบบภูมิต้านทาน จะเสริมสร้างเม็ดเลือดขาวทุกส่วนให้สมบูรณ์ เพิ่มความต้านทานและขจัดพิษหรือทำลายเชื้อโรคได้ดีขึ้น พร้อมทั้งฟื้นฟูสมรรถภาพของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ภายหลังเจ็บปวยหรืออุบัติเหตุ
ผลต่อระบบเมตาโบลิซึม ควบคุมการเก็บและการใช้น้ำตาล โปรตีน และไขมันในเลือดให้ปกติ ควบคุมแร่ธาตุแลอิเล็กโตไลท์ในเลือดให้สม่ำเสมอ การทำงานของระบบกล้ามเนื้อและประสาทต่าง ๆ ทั่วร่างกายเป็นไปตามปกติ
ผลต่อการสร้างเซลส์ใหม่และเนื้อเยื่อใหม่ ควบคุมการสร้างเซลส์และเนื้อเยื่อที่ฉีกขาด สึกหรอให้ฟื้นคืนสภาพได้รวมเร็วขึ้น ขจัดเซลส์เก่าที่ตายไปตามวงจรชีวิต ป้องกันการเกิดเซลส์ผิดปกติ เช่น เซลส์มะเร็ง
ผลต่อการลดการอักเสบของข้อและเนื้อเยื่อต่างๆ จึงได้ผลดีในการใช้ร่วมกับยาของแพทย์สำหรับการรักษาการอักเสบของบาดแผล หรือปวดข้อและปวดกระดูกเรื้อรัง
ข้อบ่งใช้ของนมผึ้งเป็นอาหารเสริมในรายการต่อไปนี้
- กระตุ้นให้ผู้ป่วยที่อาการหนัก ขาดอาหารหรือรับประทานอะไรไม่ได้ให้อยากอาหาร และช่วยให้คนไข้หายป่วยเร็วกว่าปกติ
- ชาย-หญิงที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- ผู้ที่เป็นหมัน เพราะความไม่สมบูรณ์ของร่างกาย
- กระดูกพรุน ผุกร่อน ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูกและเส้นเอ็นหรือประสาท เพราะความชราภาพ
- ความ ผิดปกติทางระบบประสาทสมอง เช่น รายอุบัติเหตุทางประสาท สมอง หรือประสาทชา สมองมึนงง เพราะขาดอาหารและออกซิเจน หรือความจำเสื่อมในวัยชรา
- โรคผิดปกติเกี่ยวกับเม็ดเลือดและความเข้มข้นของเลือด
- โรค เมตาโบลิซึมผิดปกติ เช่น ระบบย่อย ระบบขับถ่าย ระบบสรรค์สร้างและทำลายของร่ายกายไม่ปกติ เช่น ต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ เกาท์ ความดันสูง หัวใจ เบาหวาน เบาจืด ไขมันในเลือดสูง
- โรค ผิดปกติเกี่ยวกับระดับฮอร์โมนเพศไม่ได้สมดุลย์ เช่น ปวดศีรษะข้างเดียว ปวดประจำเดือน เป็นสิวมาก เป็นหมันหรือแก่เกินวัย เครียดในวัยใกล้หมดประจำเดือน
- โรคระบบภูมิต้านทานอ่อนแอหรือไม่มี เช่น โรคภูมิแพ้ เป็นหวัดได้ง่าย โพรงจมูกอักเสบ ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง
|